About Moo
  Moo's Home Page | About Moo | To Links | Moo's Photo  

เกี่ยวกับฉัน...
ดิฉันนางสาวชนัดดา ภู่ทับทิม ส่วนมากเพื่อนๆ จะคุ้นเคยในชื่อเล่น “มู๋” ชื่อที่พวกเขาไม่ค่อยกล้าเรียกสักเท่าไหร่ เนื่องจากความลงตัวระหว่างชื่อและตัวตนเป็นๆ แต่ดิฉันไม่ค่อยแคร์หร่อกขอบอก เพราะถ้าขืนมัวแต่วิตกจริตกับลมปากชาวบ้าน คงไม่ต้องเป็นอันทำอะไรกันแล้ว...
และหากย้อนกลับไปเมื่อ 29 ปีที่แล้ว ในวันที่ 22 กันยายน 2515 ก็คงเป็นวันที่แม่เจ็๋บปวดที่สุด เพราะเป็นวันที่ดิฉันอุแว้ๆ ออกมาลืมตาดูโลกนี้
สำหรับการศึกษาหาความรู้ใส่สมองตัวเองนั้น ดิฉันจบปริญญาตรีในคณะนิเทศศาสตร์ สาขาหนังสือพิมพ์และประชาสัมพันธ์ สถาบันราชภัฏเทพสตรี จ.ลพบุรี
หลังจากนั้นได้มีโอกาสเดินเข้าสังเวียนวิชาชีพที่ได้ร่ำเรียนมาเพื่อเป็นนักสื่อสารมวลชน โดยการประเดิมด้วยการเข้าสู่ตำแหน่งผู้สื่อข่าวประจำกองบรรณาธิการ นิตยสาร THE BOY ประมาณ 6 เดือนจากนั้นได้หันเหชีวิตนักข่าวด้านสิ่งพิมพ์สู่การเป็นผู้สื่อข่าวประจำศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น ของสถานีโทรทัศน์ไอทีวี ทีวีเสรี (สมัยของคุณสุทธิชัย หยุ่น และคุณเทพชัย หย่อง เป็นผู้อำนวยการฝ่ายข่าว)เป็นระยะเวลาร่วม 2 ปี ต่อจากนั้นด้วยเหตุผลส่วนตัวที่คนอื่นไม่จำเป็นต้องรับทราบและเข้าใจเกี่ยวกับการหันหลังให้กับชีวิตนักข่าว ซึ่งในช่วงเวลาที่ดิฉันได้เต็มใจออกมาวิจัยฝุ่น ดิฉันก็มิได้ปล่อยเวลาให้ไร้สาระเกินไป เพราะดิฉันตัดสินใจศึกษาเพิ่มเติมเสริมทักษะด้านภาษาอังกฤษที่สถาบันสอนภาษา AUA ร่วม 1 ปี
แต่ด้วยความเป็นคนที่โชคดีกว่าคนอื่นๆ นิดนึง ที่ว่าไม่ค่อยต้องแสวงหางาน เนื่องจากมีพี่ๆ และผู้ใหญ่ที่รักและหวังดีกับดิฉันคอยแนะนำและช่วยเหลือในเรื่องนี้มากมาย ซึ่งหลังจากการทดสอบในการเรียนภาษาระดับ Level 14 แล้วดิฉันได้มีโอกาสก้าวเข้าสู่วงจรของชีวิตนักข่าวสายสิ่งพิมพ์อีกครั้ง ด้วยการเข้าสู่ตำแหน่งผู้สื่อข่าวสายธุรกิจขายตรง นิตยสารไดเร็กท์ นิวส์ ประมาณ 4 เดือน แต่แล้วความเปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งยิ่งใหญ่ก็เกิดขึ้นนั่นคือ ทีมงานกองบรรณาธิการที่ดิฉันมีส่วนร่วมนั้น ได้พร้อมใจกันลาออกด้วยเหตุผลบางประการ และพวกเราได้มีการรวมตัวกันจดตั้งบริษัทและเป็นผู้ผลิตสื่อนิตยสารน้องใหม่อีกเล่มสู่วงการสิ่งพิมพ์ ซึ่งนั่นก็คือ LEADER TIME Magazine (Leader Of Uniuqe Infoemation For Direct Sales, Insurance & Consumer Marketing)



ที่มาของเว็บไซต์…
ดิฉันได้เริ่มทำเว็บไซต์ www.chanadda.freeservers.com นี้ขึ้นมาเนื่องจากดิฉันกำลังศึกษาในระดับปริญญาโท คณะนิเทศศาสตร์ สาขาวิชาสารสนเทศ และอยู่ในรายวิชาการสื่อสารผ่านสื่อใหม่ ภายใต้การดูแลของอาจารย์ที่มีความมั่นใจว่าความหล่อเป็นอาวุธประจำกายของท่าน ซึ่งคงไม่ใข่ใครอื่นนอกจาก ร.อ.ดร.เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ อาจารย์ผู้สอนวิชานี้นั่นเอง
โดยเฉพาะในรายวิชานี้ ดิฉันจำเป็นต้องทำ Lab โดยเป็นการสร้างเว็บไซต์ส่วนตัว ซึ่งต้องใช้ความคิดในการสร้างสรรค์เป็นอย่างยิ่ง ตอนแรกที่ได้รับทราบว่าต้องครีเอทดิฉันรู้สึกมึนไปเหมือนกัน เพราะคิดไม่ออกจริงๆ ว่าจะนำเอาข้อมูลส่วนไหนของตัวเองมาขาย เอ้ย! บอกเล่าให้เพื่อนๆ ฟังดี ยิ่งในส่วนของรูปแบบด้วยแล้ว จำได้เก็บเอาไปคิดเป็นการบ้านเป็นสัปดาห์ ก็ยังคิดไม่ออก แต่แล้วเมื่อได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนๆ ตลอดจนได้รับคำปรึกษาจากอาจารย์ ก็สรุปได้ว่าสิ่งที่ดีที่สุด คงเป็นการแนะนำตนเองผ่านเว็บไซต์ แต่ดูๆ ไปเหมือนการประจานตัวเองยังไงบอกไม่ถูก แต่ด้วยความเป็นนักนิเทศศาสตร์อันแรงกล้า ความอายจึงไม่ค่อยหลงเหลืออยู่ในตัวสักเท่าไร ในจุดนี้จึงเป็นที่มาแห่งความหาญกล้านำประวัตืและรูปภาพที่คิดว่าสวยเด้งสุดๆ แล้วมาเปิดเผยต่อสาธารณชนในกลุ่มเพื่อนๆ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รายละเอียดในเว็บนิ้สร้างมนุษยสัมพันธ์อันดี และได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนๆ ทุกคนที่คลิ๊กเข้ามาเยี่ยมชมกันด้วยความยินดียิ่ง…

ผ่านฝนโต้หนาวกว่าจะก้าวสู่ 29 ปีแห่งประสบการณ์
ดิฉันจำได้ว่าตั้งแต่จำความได้ ตัวเองเป็นเด็กที่ค่อนข้างดื้อ เอาแต่ใจตัวเอง งอแง ไม่ค่อยเชื่อฟังใคร ทำทำอะไรแตกต่างจากที่ปกติชนเขาพึงกระทำกัน เรียกได้ว่าเป็นประเภทจอมแหกกฎ หรือจะเรียกง่ายๆ ว่าผ่าเหล่าอะไรเทือกนั้น แต่ก็ไม่ได้ร้ายกาจมากมายจำได้ว่าตัวเองรู้สึกภูมิใจในชื่อและสกุลของตนเองมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะรู้สึกว่าเวลาฟังใครเรียกชื่อเราแล้วไพเราะบอกไม่ถูก หลายคนอย่าเพิ่งทำหน้าสงสัยกัน เพราะชื่อดิฉันคือ “ชนัดดา ภู่ทับทิม” เป็นยังไงรู้สึกเหมือนอย่างที่ดิฉันบอกรึเปล่า (หากใครทนไม่ไหวอนุญาตให้ลุกไปอ้วกก่อนได้นะ) ส่วนชื่อเล่นน่ะเหรอชื่อ “มู๋” ที่จริงก็มาจาก “หมู” นั่นแหละ แต่ด้วยความกล้าทางความคิดตั้งแต่สมัยมัธยมต้นแล้ว เคยเถียงกับครูสอนภาษาไทยว่า “หมู” สามารภเขียนว่า “มู๋” ได้ ไม่ใช่ไม่เชื่อครู แต่รู้สึกว่าภาษาไทยมันดิ้นได้ แล้วก็เป็นชื่อเฉพาะของเราเองจะเขียนอย่างไร คงต้องเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องตัดสินใจเอง ซึ่งเราเองเราก็ตัดสินใจว่าจะเขียนแบบอย่างหลังตั้งแต่นั้นมา ส่วนที่มาของชื่อที่สมตัวนี้ ฟังพ่อเล่าให้ฟังว่า ตอนที่แรกเกิดนั้นตัวเล็กมากๆ เหมือนลูกกรอก และหนักประมาณ 1,500 กรัมเห็นจะได้ สมาชิกทุกคนในครอบครัวเขาก็คิดว่าจะอยู่ไม่รอด น่าจะหาชื่อมาตั้งให้เป็นมงคลกับชีวิต พอพี่ต้น (ลูกชายลูกของลุง) เขามาเห็นด้วยความเป็นเด็ก เขาก็คิดว่าชื่อ “หมู” คงเหมาะมั้ง ก็เลยเรียกดิฉันด้วยชื่อนั้นตั้งแต่เล็ก ก็เลยกลายเป็นชื่อที่ได้รับการยอมรับจากสมาชิกทุกคนในครอบครัว ซึ่งในทางกลับกันทุกคนหารู้ไม่ว่า ดิฉันมีวิวัฒนาการเหมือนลูกโป่ง ที่จะทำการขยายเมื่อกำเนิดขึ้นมาแล้ว…ซึ่งบทสรุปที่เป็นภาพแห่งความเป็นจริงนั่นก็คือ ตั้งชื่อได้สมกับตัวมากกกก ขอบอก!!!

E-mail : mhu_moo@hotmail.com




Back to home page